Category: ต่างประเทศ

อินโดนีเซียและมาเลเซียกลายเป็นจุดหมายสำคัญของนักลงทุนทั่วโลก หลังจากที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ส่งสัญญาณว่าจะลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมนโยบายการเงินเดือนกันยายน ส่งผลให้กระแสเงินทุนไหลออกจากสหรัฐฯ มุ่งสู่สินทรัพย์เสี่ยงมากขึ้น เนื่องจากค่าเงินดอลลาร์อ่อนตัว นอกจากผลจากนโยบายการเงินของเฟดแล้ว การมุ่งเน้นการลงทุนในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีใหม่ เช่น ยานยนต์ไฟฟ้า (BEV) และดาต้าเซ็นเตอร์ (Data Center) ของทั้งสองประเทศ ยังเป็นปัจจัยสำคัญที่ดึงดูดเงินทุนจากต่างชาติ อินโดนีเซียและมาเลเซียที่เคยอยู่ในเงาของยักษ์ใหญ่อย่างจีนและอินเดีย กำลังได้รับความสนใจอย่างมากในฐานะตลาดที่มีศักยภาพ ข้อมูลจาก Bloomberg ระบุว่า ในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา อินโดนีเซีย มาเลเซีย และฟิลิปปินส์ มีการไหลเข้าของเงินทุนต่างชาติสุทธิในตลาดหุ้น โดยเฉพาะอินโดนีเซีย ซึ่งมีการซื้อหุ้นมูลค่า 1.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 61,563 ล้านบาท) นับเป็นมูลค่าสูงสุดตั้งแต่เดือนเมษายน 2565 และดัชนี Jakarta Stock Exchange Composite Index พุ่งแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ติดต่อกัน ในตลาดหุ้นมาเลเซีย ต่างชาติเข้าซื้อสุทธิสะสมมูลค่า 491 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 16,000 ล้านบาท) จนถึงปลายเดือนสิงหาคม คาดว่าจะเป็นระดับสูงสุดตั้งแต่เดือนมีนาคม 2565 การเติบโตของเศรษฐกิจมาเลเซียได้รับแรงหนุนจากการลงทุนในดาต้าเซ็นเตอร์และเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) […]

เครื่องบินโดยสารขนาดเล็กของสายการบินบราซิลตกกลางชุมชนในรัฐเซาเปาโล ส่งผลให้ผู้โดยสารและลูกเรือทั้ง 62 คนเสียชีวิตทั้งหมด โดยไม่มีรายงานผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิตจากผู้ที่อยู่บนพื้นดิน ตามรายงานจากสำนักข่าวต่างประเทศ เครื่องบินใบพัดสองเครื่องยนต์กำลังพาผู้โดยสาร 58 คนและลูกเรือ 4 คน เดินทางจากเมืองคาสคาวีล ในรัฐปารานา ทางตอนใต้ของบราซิล ไปยังสนามบินหลักในรัฐเซาเปาโล แต่เกิดอุบัติเหตุตกลงที่เมืองวินเยโดในรัฐเซาเปาโล เมื่อวันศุกร์ที่ 9 สิงหาคม 2567 ตามเวลาท้องถิ่น คลิปวิดีโอที่เผยแพร่บนโลกออนไลน์แสดงให้เห็นว่า เครื่องบินลำดังกล่าวพุ่งลงมาในแนวดิ่งและหมุนควง ก่อนจะกระแทกพื้นและเกิดไฟลุกท่วม ทางการท้องถิ่นของบราซิลยืนยันว่า ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตบนพื้นดิน มีเพียงบ้านได้รับความเสียหาย 1 หลังเท่านั้น ส่วนสาเหตุของอุบัติเหตุครั้งนี้ยังไม่ได้รับการเปิดเผย ข้อมูลจากเว็บไซต์ติดตามการบิน Flightradar24 ระบุว่า เครื่องบินรุ่น ATR-72 ของสายการบิน Voepass ซึ่งผลิตในปี 2553 ได้ออกเดินทางจากเมืองคาสคาวีล เวลา 11.56 น. ตามเวลาท้องถิ่น และสัญญาณหายไปหลังจากนั้นประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที ประธานาธิบดี ลูลา ดา ซิลวา แห่งบราซิล ได้โพสต์แสดงความเสียใจต่อครอบครัวและเพื่อนฝูงของผู้เสียชีวิตผ่านสื่อสังคมออนไลน์ […]

เคนยาและสาธารณรัฐแอฟริกากลางประกาศการระบาดของฝีดาษลิงรอบใหม่ เร่งควบคุมการแพร่กระจาย เคนยาและสาธารณรัฐแอฟริกากลางกลายเป็นสองประเทศในแอฟริกาที่ประกาศการระบาดของฝีดาษลิงหรือเอ็มพ็อกซ์ (Mpox) ในรอบใหม่ โดยขณะนี้หน่วยงานสาธารณสุขกำลังเร่งหาทางควบคุมการแพร่กระจายของเชื้อในภูมิภาค ตามรายงานจากสำนักข่าวต่างประเทศ รัฐบาลเคนยาได้ประกาศการระบาดเมื่อวันพุธที่ 31 กรกฎาคม 2567 หลังตรวจพบว่าผู้โดยสารคนหนึ่งที่เดินทางข้ามพรมแดนทางใต้ของประเทศจากยูกันดามายังรวันดาติดเชื้อ ส่วนสาธารณรัฐแอฟริกากลางได้ประกาศการระบาดไปตั้งแต่วันจันทร์ ซึ่งการระบาดได้ขยายไปถึงกรุงเบงกี เมืองหลวงของประเทศแล้ว เอ็มพ็อกซ์ หรือที่เคยรู้จักในชื่อฝีดาษลิง เป็นโรคที่เกิดจากเชื้อไวรัสที่มีต้นกำเนิดมาจากสัตว์ป่าจำพวกสัตว์ฟันแทะและสามารถแพร่กระจายสู่มนุษย์ได้ เดิมทีเชื้อนี้แพร่กระจายอยู่ในแอฟริกาเท่านั้น แต่กลายเป็นจุดสนใจระดับนานาชาติในปี 2565 หลังจากที่เกิดการระบาดในประเทศต่าง ๆ กว่า 100 ประเทศ รวมถึงชาติทางฝั่งตะวันตก แม้ว่าชาติตะวันตกจะสามารถควบคุมการระบาดได้ด้วยการรักษาและวัคซีน แต่ชาติในแอฟริกายังคงขาดแคลนวัคซีนและมีการระบาดเกิดขึ้นในหลายประเทศในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ในแอฟริกา สถานการณ์การระบาดที่รุนแรงที่สุดในปัจจุบันเกิดขึ้นในสาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก โดยในปีนี้พบผู้ติดเชื้อกว่า 12,000 รายและมีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 470 ราย ส่วนในสาธารณรัฐแอฟริกากลาง มีผู้ติดเชื้อแล้ว 11,000 รายในปี 2567 และมีผู้เสียชีวิตไปแล้ว 443 ราย นายปิแอร์ ซอมเซ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขของสาธารณรัฐแอฟริกากลาง ได้ขอความร่วมมือจากหัวหน้าครอบครัวและผู้นำชุมชนให้แจ้งเจ้าหน้าที่หากพบเห็นผู้มีอาการเข้าข่ายติดเชื้อฝีดาษลิง โดยผู้ป่วยจะถูกแยกตัวและได้รับการรักษาในโรงพยาบาลโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย เจ้าหน้าที่ของสาธารณรัฐแอฟริกากลางยังได้เปิดเผยว่าพวกเขากำลังร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้าน เช่น สาธารณรัฐคองโก, คองโก, ไนจีเรีย, แคเมอรูน […]

เปิดฉากอย่างเป็นทางการสำหรับการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกเกมส์ 2024 ที่กรุงปารีส โดยเจ้าภาพฝรั่งเศสไอเดียสุดล้ำใช้บอลลูนเป็นกระถางจุดคบเพลิงลอยเด่นสง่าบนฟากฟ้า พิธีเปิดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกเกมส์ 2024 จัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ที่แม่น้ำแซน กลางกรุงปารีส ท่ามกลางสายฝนโปรยปราย แค่เริ่มต้นก็น่าตื่นตาตื่นใจด้วยโชว์จากเลดี้ กาก้า นักร้องชื่อดัง ที่จัดเต็มทั้งเต้นทั้งร้อง ทำเอาบรรยากาศกลายเป็นสีชมพู ต่อด้วยการแสดงวัฒนธรรมต่างๆ ที่ผสมผสานความเป็นฝรั่งเศส ความเชื่อ และเหตุการณ์ต่างๆ ของโลก ซึ่งมีศิลปินมากมายเข้าร่วม สำหรับขบวนพาเหรดบนแม่น้ำแซน เริ่มต้นด้วยทัพนักกีฬาจากประเทศกรีซ ซึ่งเป็นประเทศต้นกำเนิดโอลิมปิก ขณะที่ทีมชาติไทยต่อคิวมาเป็นชาติลำดับที่ 184 ต่อจากสาธารณรัฐเช็ก โดยมี “เอสที” วารีรยา สุขเกษม นักกีฬาสเกตบอร์ดหญิง ทีมชาติไทย อายุ 12 ปี และ “บิว” ภูริพล บุญสอน นักกรีฑาขวัญใจชาวไทย เป็นผู้ถือธงชาติไทยนำขบวน ปิดท้ายด้วยทัพนักกีฬาเจ้าภาพฝรั่งเศส ไฮไลต์ของพิธีเปิดในวันนี้คงจะหนีไม่พ้นการจุดคบเพลิง โดยผู้ถือคบเพลิงปริศนาส่งต่อให้ซีเนดีน ซีดาน ตำนานกองกลางทีมชาติฝรั่งเศส ชุดคว้าแชมป์ฟุตบอลโลก 1998 ก่อนส่งต่อให้ราฟาเอล นาดาล นักเทนนิสชาวสเปน ดีกรีแชมป์เฟรนช์ โอเพ่น 15 สมัย […]

เรือบรรทุกน้ำมันฟิลิปปินส์ล่มกลางทะเล หวั่นน้ำมัน 1.4 ล้านลิตรรั่วไหล เรือบรรทุกน้ำมันของฟิลิปปินส์ ซึ่งบรรทุกเชื้อเพลิงอุตสาหกรรมถึง 1.4 ล้านลิตร ล่มนอกชายฝั่งกรุงมะนิลา ทางการกำลังเร่งควบคุมน้ำมันรั่วไหล เรือบรรทุกน้ำมัน เอ็มที เทอร์รา โนวา (MT Terra Nova) อับปางในอ่าวมะนิลา เมื่อหลังเที่ยงคืนของวันพฤหัสบดีที่ 25 กรกฎาคม 2567 ขณะกำลังมุ่งหน้าไปยังเมืองอิโลอิโล ท่ามกลางคลื่นลมแรงและฝนตกหนักจากอิทธิพลของไต้ฝุ่นแคมี ซึ่งเคลื่อนตัวขึ้นฝั่งมณฑลฝูเจี้ยนของจีนในวันเดียวกันนี้ เจ้าหน้าที่สามารถช่วยลูกเรือได้ทั้งหมด 16 จาก 17 คน ขณะเรือกำลังจม ส่วนคนสุดท้ายที่หายตัวไปถูกพบเป็นศพในทะเลในช่วงบ่าย หน่วยยามฝั่งฟิลิปปินส์ระบุว่า ตรวจพบคราบน้ำมันแผ่ขยายประมาณ 3.7 กิโลเมตรนอกชายฝั่ง อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ชี้แจงว่าน้ำมันที่พบคือน้ำมันดีเซลของเรือบรรทุกน้ำมัน ไม่ใช่เชื้อเพลิงอุตสาหกรรมที่เป็นสินค้า เจ้าหน้าที่กำลังแข่งกับเวลาเพื่อใช้สารช่วยกระจายตัวและวางแนวทุ่นกักน้ำมัน เพื่อป้องกันการแพร่กระจาย พลเรือตรีอาร์มันโด บาลิโล โฆษกหน่วยยามฝั่งเตือนว่า หากเชื้อเพลิงอุตสาหกรรมรั่วไหล นี่จะเป็นเหตุน้ำมันรั่วในทะเลครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของฟิลิปปินส์ ความเสี่ยงยังรวมถึงแนวชายฝั่งของกรุงมะนิลาที่อาจได้รับผลกระทบ เนื่องจากจุดที่เรือจมอยู่ห่างจากจังหวัดบาตันเพียง 6 กิโลเมตร พลเรือตรีบาลิโลเชื่อว่า การขนย้ายเชื้อเพลิงอุตสาหกรรมออกจากคลังสินค้าของเรือบรรทุกน้ำมันจะทำได้อย่างรวดเร็ว เนื่องจากเรือจมอยู่ก้นทะเลที่ความลึกเพียง 34 เมตร […]

เมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองแห่งชาติของจีนได้เปิดเผยข้อมูลว่า ตั้งแต่เดือนมกราคมถึงเดือนมิถุนายนของปีนี้ มีผู้เดินทางเข้าและออกจากประเทศจีนมากถึง 287 ล้านคน แบ่งเป็นชาวจีนแผ่นดินใหญ่ 137 ล้านคน ชาวฮ่องกง มาเก๊า และไต้หวัน 121 ล้านคน และชาวต่างชาติ 29.22 ล้านคน เมื่อพิจารณาจำนวนชาวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาในประเทศจีน พบว่ามีจำนวนมากถึง 14.64 ล้านคน ซึ่งเพิ่มขึ้นถึง 152.7% เมื่อเทียบกับปี 2566 ในจำนวนนี้มีชาวต่างชาติที่เข้ามาในประเทศโดยไม่ต้องใช้วีซ่า 8.54 ล้านคน ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วถึง 190.1% ทั้งนี้ ทางการจีนคาดการณ์ว่า จำนวนชาวต่างชาติที่จะเข้ามาท่องเที่ยวในจีนจะเพิ่มขึ้นต่อเนื่องในช่วงครึ่งปีหลัง ปรากฏการณ์เพิ่มขึ้นนี้เป็นผลมาจากนโยบายวีซ่าฟรีที่อนุญาตให้ชาวต่างชาติสามารถเดินทางเข้าประเทศได้มากสุด 15 วันโดยไม่ต้องขอวีซ่า #ข่าวต่างประเทศ

พายุสุริยะครั้งรุนแรงที่สุดในรอบ 20 ปี ได้เดินทางมาถึงโลกในวันที่ 10-11 พฤษภาคม 2567 ทำให้เกิดปรากฏการณ์แสงเหนืออันตระการตาในหลายพื้นที่ทั่วโลก ตั้งแต่รัฐแทสมาเนียในออสเตรเลีย ไปจนถึงเกาะอังกฤษ, หลายประเทศในยุโรป และทวีปอเมริกาเหนือ โดยผู้คนทั่วไปได้รับชมปรากฏการณ์นี้ด้วยความตื่นตาตื่นใจ การปลดปล่อยมวลจากดวงอาทิตย์ (Coronal Mass Ejection – CME) หรือพายุสุริยะ ซึ่งประกอบด้วยพลาสมาและสนามแม่เหล็กจากดวงอาทิตย์ ได้เดินทางมาถึงโลกในเวลาประมาณ 16.00 น. ตามเวลามาตรฐานกรีนิช โดยศูนย์พยากรณ์อากาศอวกาศขององค์การบริหารมหาสมุทรและชั้นบรรยากาศแห่งชาติ (NOAA) เปิดเผยว่า พายุสุริยะนี้ได้ยกระดับเป็น ‘รุนแรง’ ในเวลาต่อมา ซึ่งเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ ‘พายุฮาโลวีน’ ในเดือนตุลาคม 2546 พายุสุริยะนี้อาจส่งผลกระทบต่ออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่อ่อนไหวต่อการเปลี่ยนแปลงของสนามไฟฟ้า เช่น ดาวเทียมสื่อสารที่โคจรอยู่เหนือชั้นบรรยากาศของโลก และบางครั้งอาจส่งผลกระทบต่อกริดจ่ายไฟฟ้าภาคพื้นโลก อย่างไรก็ตาม ประเทศที่อยู่ในละติจูดสูงมักได้รับผลกระทบมากที่สุด ส่วนไทยที่อยู่ใกล้เส้นศูนย์สูตร จึงได้รับการปกป้องจากสนามแม่เหล็กโลก และไม่ได้รับผลกระทบใดๆ ทั้งนี้ แม้ว่าพายุสุริยะอาจสร้างความเสียหายต่อระบบอิเล็กทรอนิกส์ได้ แต่มันก็เป็นสาเหตุให้เกิดปรากฏการณ์แสงเหนือในหลายพื้นที่ของโลก สร้างบรรยากาศความตื่นเต้นแพร่กระจายไปทั่วออสเตรเลีย, ยุโรป และอเมริกาเหนือ ตั้งแต่เมืองมงต์ แซงต์-มิเชล ในฝรั่งเศส ไปจนถึงเมืองปาเยตเต ในรัฐไอดาโฮของสหรัฐอเมริกา […]

เจ้าผู้ครองรัฐดูไบเปิดเผยแผนย้ายฐานการดำเนินงานสนามบินนานาชาติดูไบไปยังสถานที่ใหม่ที่ใหญ่กว่าเดิมถึง 5 เท่า มูลค่าโครงการสูงถึง 1.29 ล้านล้านบาท เชค มุฮัมมัด บิน รอชิด อัลมักตูม ได้ประกาศแผนการย้ายฐานการดำเนินงานของท่าอากาศยานนานาชาติดูไบ ซึ่งเป็นหนึ่งในสนามบินที่พลุกพล่านที่สุดในโลก ไปยังสนามบินนานาชาติอัลมักตูม สนามบินใหม่นี้ตั้งอยู่ท่ามกลางทะเลทรายทางตอนใต้ของเมืองดูไบ โดยคาดว่าจะแล้วเสร็จภายใน 10 ปีข้างหน้า มีมูลค่าโครงการ 34,850 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สนามบินแห่งนี้จะมีขนาดใหญ่กว่าสนามบินปัจจุบันถึง 5 เท่า ประกอบด้วย 5 รันเวย์และ 400 เกตทางออก คาดว่าจะรองรับผู้โดยสารได้ถึง 260 ล้านคนต่อปี และจะกลายเป็นฐานการบินใหม่สำหรับสายการบินเอมิเรตส์และสายการบินต้นทุนต่ำฟลายดูไบ การเคลื่อนย้ายนี้เป็นส่วนหนึ่งของการฟื้นตัวของสายการบินเอมิเรตส์หลังจากการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา นอกจากนี้ยังสะท้อนถึงการฟื้นตัวของดูไบจากวิกฤติเศรษฐกิจปี 2552 และการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ส่งผลให้การท่องเที่ยวและเศรษฐกิจดูไบกลับมาเฟื่องฟูอีกครั้ง เชค มุฮัมมัด กล่าวย้ำถึงความมุ่งมั่นในการสร้างโครงการสำหรับคนรุ่นอนาคต และยืนยันว่าดูไบจะเป็นศูนย์กลางเมืองของโลกและศูนย์กลางระดับโลกแห่งใหม่ โดยการขยายเมืองออกไปทางใต้นี้ยังรวมถึงการสร้างเมืองรอบๆ สนามบินแห่งใหม่ที่จะส่งเสริมการลงทุนและการพัฒนาด้านโลจิสติกส์และการขนส่งทางอากาศในระดับโลก การขยายสนามบินนานาชาติอัล มักตูมไม่เพียงแต่เป็นการเสริมสร้างความสามารถในการบินและขนส่งอากาศเท่านั้น แต่ยังเป็นการเตรียมความพร้อมสำหรับการขยายเมืองในอนาคต สนามบินแห่งนี้จะเป็นประตูหลักสู่เส้นทางการค้าและการท่องเที่ยวระหว่างทวีป และจะเสริมสร้างบทบาทของดูไบในฐานะศูนย์กลางเศรษฐกิจและการเงินระดับโลก ในแง่ของการพัฒนาเทคโนโลยีและการออกแบบ, สนามบินนานาชาติอัล มักตูมมีการนำเสนอดีไซน์ที่ทันสมัยและมีฟังก์ชั่นการใช้งานที่ชาญฉลาด การออกแบบเน้นการใช้พื้นที่อย่างมีประสิทธิภาพ มีระบบการจัดการพลังงานและน้ำที่ยั่งยืน และมุ่งเน้นที่การลดการปล่อยก๊าซคาร์บอน […]

HUAWEI ประกาศการกลับมาอย่างยิ่งใหญ่ด้วยการเปิดตัว Pura 70 Series ต่อสู้กับ Apple ในตลาดจีน HUAWEI เปิดตัวสมาร์ทโฟนซีรีส์ใหม่ “Pura 70” ที่มีทั้งหมด 4 รุ่น: Pura 70, Pura 70 Pro, Pura 70 Pro+, และ Pura 70 Ultra รุ่นท็อป เป็นการรีแบรนด์จากซีรีส์ P-series เดิม ตัวเครื่องถูกจับตามองว่าเป็น “ตัวแทน” ของจีน ในขณะที่มีสงครามการค้ากับสหรัฐฯ ปีที่แล้ว HUAWEI ได้สร้างความสำเร็จด้วยการเปิดตัว Mate 60 Pro+ ที่ทำให้สินค้าขาดตลาดอย่างรวดเร็ว และส่งผลให้ยอดขาย iPhone 15 Pro Max ในจีนลดลงอย่างมาก จน Apple ต้องลดราคาเพื่อแข่งขัน HUAWEI Mate 60 Pro+ […]

แผ่นดินไหวขนาด 4.8 แม็กนิจูดทำให้นิวยอร์กสั่นสะเทือน ห่างจากมหานคร 64 กิโลเมตร วันที่ 6 เมษายน – สำนักสำรวจธรณีวิทยาสหรัฐอเมริกา (USGS) รายงานว่าเมื่อเวลา 10.23 น. ตามเวลาท้องถิ่นของวันศุกร์ที่ 5 เมษายน, แผ่นดินไหวขนาด 4.8 แม็กนิจูดได้เกิดขึ้นใกล้กับย่านไวท์เฮาส์ สเตชั่น ในรัฐนิวเจอร์ซีย์, ห่างจากนครนิวยอร์กประมาณ 64 กิโลเมตร และมีจุดศูนย์กลางลึกลงไปใต้ดินประมาณ 4.6 กิโลเมตร. แรงสั่นสะเทือนจากเหตุการณ์นี้ได้รับรู้ได้ไกลถึงเมืองฟิลาเดลเฟียในรัฐเพนซิลเวเนียและนครบอสตันในรัฐแมสซาชูเซตส์, รวมถึงในย่านแมนฮัตตันของนครนิวยอร์กซึ่งอาคารสูงหลายแห่งได้รับผลกระทบจากการสั่นสะเทือน. สัญลักษณ์อันเป็นที่รักของนครนิวยอร์ก, “เทพีเสรีภาพ”, ก็ไม่ได้รอดพ้นจากผลกระทบนี้. นางเคธี โฮชุล, ผู้ว่าการรัฐนิวยอร์ก, ได้ประกาศว่ากำลังดำเนินการตรวจสอบโครงสร้างพื้นฐานในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบอย่างละเอียดเพื่อให้มั่นใจว่าไม่มีความเสียหายที่อาจเป็นอันตรายต่อประชาชน. ขณะที่นายเอริก อดัมส์, นายกเทศมนตรีนครนิวยอร์ก, ได้เสริมว่าจนถึงขณะนี้ยังไม่มีรายงานเรื่องความเสียหายร้ายแรง, ผู้เสียชีวิต, หรือผู้บาดเจ็บจากเหตุการณ์ดังกล่าว. การเกิดแผ่นดินไหวครั้งนี้ถือเป็นเหตุการณ์ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคในรอบหลายทศวรรษ, ซึ่งได้สร้างความกังวลให้กับชาวนิวยอร์กและพื้นที่ใกล้เคียง. ทั้ง BBC และ The New York Times ได้รายงานเหตุการณ์นี้อย่างต่อเนื่อง, ท่ามกลางความพยายามของทางการในการประเมินและตอบสนองต่อสถานการณ์. […]

OpenAI กำลังจะเปิดตัวสำนักงานใหม่ในกรุงโตเกียว, ประเทศญี่ปุ่น ภายในเดือนเมษายนนี้ เนื่องจากองค์กรต้องการขยายธุรกิจและเพิ่มการสนับสนุนลูกค้าในญี่ปุ่น ความเคลื่อนไหวนี้ตามมาหลังจากการประกาศในปีที่ผ่านมาเมื่อ Sam Altman, CEO ของ OpenAI, ได้เดินทางไปยังกรุงโตเกียวเพื่อพบกับ Fumio Kishida, นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น โดยพวกเขาได้หารือเกี่ยวกับการสร้างกรอบการกำกับดูแลเทคโนโลยีในญี่ปุ่น และวิธีการพัฒนา AI ต่อไป Altman ได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของญี่ปุ่นในฐานะทั้งผู้ปรับใช้และผู้สร้างเทคโนโลยี โดยระบุว่า “AI จะกลายเป็นหนึ่งในการปฏิวัติทางเทคโนโลยีที่สำคัญที่สุดเท่าที่เคยมีมา” การรายงานของ Nikkei Asia ชี้ให้เห็นว่า OpenAI มีความตั้งใจที่จะปฏิบัติตามกฎระเบียบท้องถิ่นและมีแผนที่จะพัฒนาโมเดลสำหรับภาษาญี่ปุ่นที่เข้ากับวัฒนธรรมญี่ปุ่นโดยเฉพาะ การตั้งสำนักงานใหม่ในกรุงโตเกียวไม่เพียงแต่แสดงถึงการขยายตัวของ OpenAI ในเอเชียเท่านั้น แต่ยังเป็นการสร้างโอกาสในการจ้างงานและเสริมสร้างความร่วมมือทางเทคโนโลยีในญี่ปุ่น สำนักงานใหญ่ของ OpenAI ตั้งอยู่ที่ซานฟรานซิสโก, สหรัฐอเมริกา และการขยายตัวไปยังต่างประเทศเริ่มขึ้นในปีที่แล้ว โดยมีสำนักงานที่ลอนดอน, ประเทศอังกฤษ และดับลิน, ประเทศไอร์แลนด์ การเคลื่อนไหวล่าสุดในญี่ปุ่นจึงถือเป็นก้าวที่สำคัญในการขยายขอบเขตขององค์กรและการเข้าถึงลูกค้าในระดับโลก. #ข่าวต่างประเทศ

เมื่อไม่นานมานี้, ซาราห์ (@sarsland) ในติ๊กต็อกได้ทำให้หลายคนตื่นตะลึงด้วยเรื่องราวที่เธอแชร์เกี่ยวกับเพื่อนสนิทที่ค้นพบว่าแฟนหนุ่มนอกใจ จากการใช้แอพพลิเคชันสั่งอาหาร ซาราห์บอกว่าเพื่อนของเธอขอยืมโทรศัพท์แฟนเพื่อสั่งอาหาร และเห็นคำสั่งซื้อที่ถูกจัดส่งไปยังที่อยู่ที่ไม่คุ้นเคย ซึ่งหลังจากตรวจสอบประวัติการสั่งซื้อพบว่า เกิดขึ้นในช่วงที่เธอไม่อยู่บ้าน แฟนหนุ่มอ้างว่าเขาสั่งอาหารขณะเล่นวิดีโอเกมที่บ้านเพื่อน แต่เพื่อนของซาราห์ไม่เชื่อและตัดสินใจตรวจสอบที่อยู่ที่น่าสงสัย ที่นั่นเธอพบว่ามีผู้หญิงอาศัยอยู่ และเมื่อเธอทักทายผู้หญิงคนนั้นด้วยคำว่า “สวัสดี ฉันคือแฟนของXXX เธอรู้จักเขาหรือเปล่า?” ฝ่ายหญิงยอมรับว่ารู้จักและคบหากับแฟนหนุ่มของเธอมา 4 เดือนโดยไม่รู้ว่าเขามีแฟนอยู่แล้ว ซาราห์ในท้ายที่สุดได้ย้ำความสำคัญของการเชื่อใจสัญชาตญาณของตัวเอง โดยระบุว่าเซนส์ของผู้หญิงนั้นแรงและมักจะถูกต้อง เรื่องราวนี้ได้รับการสนับสนุนจากชาวเน็ตนับพันที่แชร์ประสบการณ์คล้ายๆ กัน บางคนพบว่าแฟนนอกใจผ่าน Uber ขณะที่บางคนบอกว่าเคยฝันเห็นแฟนนอกใจแล้วตื่นขึ้นมาพบว่าเป็นจริง #ข่าวต่างประเทศ

นายโจว อายุ 50 ปี จากเมืองกว่างโจว ประเทศจีน, ไม่คาดคิดว่าอาการปวดหูข้างซ้ายและมีของเหลวออกจากหูที่ทำให้เขาต้องไปโรงพยาบาลเมื่อเร็วๆ นี้ จะนำไปสู่การวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งช่องหูภายนอก. การใช้ไม้แคะหูทุกวันนานถึง 10 ปีเป็นสาเหตุที่นำไปสู่การเกิดเซลล์เจริญเติบโตผิดปกติและกลายเป็นมะเร็ง, ตามที่ นพ.จาง หงเจิ้ง จากโรงพยาบาลจูเจียงแห่งมหาวิทยาลัยการแพทย์ภาคใต้ เปิดเผย. ประหลาดใจกับการวินิจฉัย, นายโจวถึงกับตั้งคำถามว่า “หูเป็นมะเร็งได้ด้วยเหรอ?” และเสียใจกับนิสัยที่ไม่ดีที่เขามีมานาน. อย่างไรก็ตาม, หลังจากการผ่าตัด, รังสีรักษา, และเคมีบำบัด, นายโจวฟื้นตัวได้ดี. นพ.จาง หงเจิ้ง กล่าวว่า มะเร็งช่องหูภายนอกเป็นโรคที่หายาก มีอุบัติการณ์เพียงประมาณ 0.2% ของเนื้องอกที่ศีรษะและคอ และเป็นโรคที่พบได้ยาก มักเกิดขึ้นในผู้ใหญ่ระหว่าง 40 – 60 ปี. อาการของมะเร็งช่องหูภายนอกในระยะแรกมักคล้ายกับโรคหูอื่นๆ เช่น หูน้ำหนวกภายนอกหรือหูชั้นกลางอักเสบ ซึ่งรวมถึงอาการของเหลวในหู, ปวดหู, สูญเสียการได้ยิน, หูอื้อ, แน่นหู หรือเวียนศีรษะ ดังนั้น การวินิจฉัยอาจผิดพลาดได้ง่าย. โรคนี้รักษาได้ด้วยการผ่าตัด และอัตราการรอดชีวิตหลังการผ่าตัดในระยะเริ่มแรกอาจสูงถึง 90% ถึง 100% […]