Category: ข่าวเศรษฐกิจ

ข่าวเศรษฐกิจ ต่างประเทศ

ค่าครองชีพพุ่งสูง! คนอเมริกันหันบริโภค ‘ปลากระป๋อง’ แทนหมู-ไก่ ขณะที่ไทยครองอันดับ 2 แชมป์ส่งออกโลก

ประเทศไทยถือเป็นหนึ่งในผู้นำด้านการส่งออกสินค้าปลากระป๋องและแปรรูป โดยไทยครองอันดับ 2 ของโลกในฐานะผู้ส่งออกปลากระป๋อง รองจากจีน และยังเป็นอันดับ 1 ในภูมิภาคอาเซียน ด้วยมูลค่าการส่งออกสูงถึง 1,145.3 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 39,000 ล้านบาท ปลาทูน่ากระป๋องยังคงเป็นสินค้าหลักในการส่งออกของไทยมาอย่างยาวนาน แม้ว่าปริมาณปลาทูน่าที่จับได้ในน่านน้ำของไทยจะไม่เพียงพอต่อความต้องการในตลาดโลก โดยปลาทูน่าส่วนใหญ่ที่ส่งออกจากไทยมักมาจากการนำเข้าจากประเทศต่างๆ เช่น ไต้หวัน มัลดีฟส์ เกาหลีใต้ นาอูรู และไมโครนีเซีย ก่อนจะนำมาผลิตและส่งออก ในปี 2567 ช่วง 8 เดือนแรก ไทยผลิตปลากระป๋องรวม 472,485.3 ตัน ซึ่งเติบโตราว 9.3% แต่การจำหน่ายภายในประเทศคิดเป็นเพียง 15% ส่วนที่เหลือ 85% เป็นการผลิตเพื่อการส่งออก โดยผลิตภัณฑ์ที่โดดเด่นที่สุดคือปลาทูน่ากระป๋อง คิดเป็น 83.3% ของการผลิต ขณะที่ปลาซาร์ดีนกระป๋องมีสัดส่วน 16.7% ข้อมูลจากวิจัยธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ (LH) ระบุว่าในช่วง 8 เดือนที่ผ่านมา ไทยจำหน่ายปลาทูน่ากระป๋องรวม 3.82 แสนตัน […]

ข่าวเศรษฐกิจ ต่างประเทศ

มาเลเซีย-อินโดฯ เร่งเครื่องแข่งจีน-อินเดีย ดึงดูดต่างชาติลงทุน เศรษฐกิจเติบโตแข็งแกร่ง สู่การเป็นผู้นำผลิตชิปและ EV

อินโดนีเซียและมาเลเซียกลายเป็นจุดหมายสำคัญของนักลงทุนทั่วโลก หลังจากที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ส่งสัญญาณว่าจะลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมนโยบายการเงินเดือนกันยายน ส่งผลให้กระแสเงินทุนไหลออกจากสหรัฐฯ มุ่งสู่สินทรัพย์เสี่ยงมากขึ้น เนื่องจากค่าเงินดอลลาร์อ่อนตัว นอกจากผลจากนโยบายการเงินของเฟดแล้ว การมุ่งเน้นการลงทุนในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีใหม่ เช่น ยานยนต์ไฟฟ้า (BEV) และดาต้าเซ็นเตอร์ (Data Center) ของทั้งสองประเทศ ยังเป็นปัจจัยสำคัญที่ดึงดูดเงินทุนจากต่างชาติ อินโดนีเซียและมาเลเซียที่เคยอยู่ในเงาของยักษ์ใหญ่อย่างจีนและอินเดีย กำลังได้รับความสนใจอย่างมากในฐานะตลาดที่มีศักยภาพ ข้อมูลจาก Bloomberg ระบุว่า ในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา อินโดนีเซีย มาเลเซีย และฟิลิปปินส์ มีการไหลเข้าของเงินทุนต่างชาติสุทธิในตลาดหุ้น โดยเฉพาะอินโดนีเซีย ซึ่งมีการซื้อหุ้นมูลค่า 1.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 61,563 ล้านบาท) นับเป็นมูลค่าสูงสุดตั้งแต่เดือนเมษายน 2565 และดัชนี Jakarta Stock Exchange Composite Index พุ่งแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ติดต่อกัน ในตลาดหุ้นมาเลเซีย ต่างชาติเข้าซื้อสุทธิสะสมมูลค่า 491 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 16,000 ล้านบาท) จนถึงปลายเดือนสิงหาคม คาดว่าจะเป็นระดับสูงสุดตั้งแต่เดือนมีนาคม 2565 การเติบโตของเศรษฐกิจมาเลเซียได้รับแรงหนุนจากการลงทุนในดาต้าเซ็นเตอร์และเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) […]

ข่าวเศรษฐกิจ

เอกชนจ่อปรับขึ้นราคาสินค้า 15% ตามการขึ้นค่าแรงวันละ 400 บาท

ตรียมรับมือกับการปรับราคาสินค้า: เอกชนอาจขึ้นราคาถึง 15% หลังรัฐขึ้นค่าแรงวันละ 400 บาท ในวันที่ 29 เมษายน 2567, นายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าได้เปิดเผยข้อมูลจากการสำรวจทัศนคติของผู้ประกอบการในภาคการผลิต, การค้า และบริการ พบว่าหลายฝ่ายเตรียมปรับขึ้นราคาสินค้าและบริการภายในเดือนหน้า ซึ่งเป็นผลจากการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำเป็น 400 บาทต่อวันในปีนี้ โดยการสำรวจระบุว่า 64.7% ของเอกชนเตรียมที่จะปรับราคาสินค้าขึ้นมากกว่า 15% เพื่อรับมือกับต้นทุนค่าแรงที่สูงขึ้น ส่วนที่เหลือ 35.3% ระบุว่าจะไม่ปรับราคาสินค้าแต่จะลดปริมาณหรือต้นทุนอื่นแทน นายธนวรรธน์ยังชี้แจงว่า แม้การขึ้นค่าแรงจะส่งผลดีต่อการเติบโตของ GDP และกระตุ้นกำลังซื้อและการลงทุน แต่ก็อาจกระตุ้นให้นายจ้างลงทุนในเทคโนโลยีและทักษะของแรงงานมากขึ้นเพื่อประหยัดต้นทุนแรงงาน นอกจากนี้ ค่าแรงที่สูงอาจทำให้นายจ้างต้องปลดพนักงานหากไม่สามารถรับมือกับต้นทุนที่สูงขึ้นได้ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อกำลังซื้อในระบบเศรษฐกิจ และสร้างแรงกดดันเงินเฟ้อในสินค้าและบริการที่ใช้แรงงานเข้มข้น การสำรวจยังพบว่า 72.6% ของผู้ประกอบการยังไม่เห็นด้วยกับการปรับขึ้นค่าแรงเป็น 400 บาท โดยเสนอว่าค่าแรงที่เหมาะสมควรอยู่ที่ 370 บาทต่อวัน ส่วนการจัดการค่าครองชีพของแรงงานที่มีรายได้ไม่เกิน 15,000 บาท ผลสำรวจระบุว่าส่วนใหญ่ (65.3%) ต้องการให้มีการปรับค่าแรงเพียงเท่ากับค่าสาธารณูปโภคที่เพิ่มขึ้น รัฐจำเป็นต้องเข้ามาช่วยแก้ไขปัญหาค่าแรงและค่าครองชีพให้กับกลุ่มเปราะบาง โดยการสนับสนุนค่าอาหาร ค่าสาธารณูปโภค และสวัสดิการค่าเดินทาง นอกจากนี้ […]

ข่าวเศรษฐกิจ

ครม. อนุมัติขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 400 บาทต่อวัน เริ่ม 13 เม.ย. 67 แรงงานเฮ!

กระทรวงแรงงานประกาศการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำเป็น 400 บาทต่อวันในภาคอุตสาหกรรมท่องเที่ยว, โดยเน้นไปที่กิจการโรงแรมระดับ 4 ดาวขึ้นไป, มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 13 เมษายน 2567, โดยนำร่องใน 10 จังหวัดท่องเที่ยวหลักของประเทศ. การประกาศนี้ตามมติของที่ประชุมคณะกรรมการค่าจ้างชุดที่ 22 ซึ่งประชุมเมื่อวันที่ 26 มีนาคม 2567, ได้รับทราบและเห็นชอบจากที่ประชุมครม. สำหรับการปรับอัตราค่าจ้างให้เพิ่มขึ้นนี้มีเป้าหมายเพื่อสนับสนุนการท่องเที่ยวและเพิ่มคุณภาพชีวิตของลูกจ้างในกิจการโรงแรมที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ต่างๆ ในช่วงเวลาที่ผ่านมา. จังหวัดที่รวมอยู่ในโครงการนำร่อง ได้แก่ กรุงเทพมหานคร (เฉพาะเขตปทุมวันและวัฒนา), กระบี่ (เฉพาะเขตอ่าวนาง), ชลบุรี (เฉพาะเมืองพัทยา), เชียงใหม่ (เฉพาะเขตเทศบาลนครเชียงใหม่), ประจวบคีรีขันธ์ (เฉพาะเขตหัวหิน), พังงา (เฉพาะเขตคึกคัก), ภูเก็ต, ระยอง (เฉพาะเขตบ้านเพ), สงขลา (เฉพาะเขตหาดใหญ่), และสุราษฎร์ธานี (เฉพาะเขตเกาะสมุย). การเคลื่อนไหวนี้เป็นการตอบสนองต่อความต้องการให้มีการปรับปรุงค่าจ้างในภาคส่วนที่สำคัญของเศรษฐกิจไทย โดยคาดหวังว่าจะช่วยเพิ่มความเชื่อมั่นในหมู่นายจ้างและลูกจ้าง และส่งเสริมการเติบโตของภาคอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในประเทศไทย. #ข่าวเศรษฐกิจ

Back To Top