2.49 ล้านคนใช้บริการ ท่าอากาศยานไทยช่วงสงกรานต์

2.49 ล้านคนใช้บริการ ท่าอากาศยานไทยช่วงสงกรานต์

ดร.กีรติ กิจมานะวัฒน์, กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ของบริษัท ท่าอากาศยานไทย (AOT) ได้รายงานว่าช่วงเทศกาลสงกรานต์ปี 2567 ท่าอากาศยานในประเทศไทยทั้ง 6 แห่ง ได้แก่ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ, ดอนเมือง, เชียงใหม่, แม่ฟ้าหลวง เชียงราย, ภูเก็ต และหาดใหญ่ ได้รับการใช้บริการจากผู้โดยสารทั้งสิ้น 2.49 ล้านคน โดยมีผู้โดยสารระหว่างประเทศที่ใช้บริการทั้งสิ้น 1.54 ล้านคน แบ่งเป็นผู้โดยสารขาออก 789,420 คน และขาเข้า 749,990 คน ส่วนผู้โดยสารภายในประเทศมีจำนวน 955,800 คน แบ่งเป็นขาออก 475,860 คน และขาเข้า 479,940 คน ในช่วงวันที่ 11 – 17 เมษายน 2567

เที่ยวบินในช่วงเทศกาลสงกรานต์รวมทั้งสิ้น 14,934 เที่ยว ซึ่งรวมถึงเที่ยวบินระหว่างประเทศ 8,303 เที่ยว และเที่ยวบินภายในประเทศ 6,631 เที่ยว ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิมีจำนวนผู้โดยสารใช้บริการสูงสุดในช่วงนี้ ด้วยจำนวน 1.26 ล้านคน รองลงมาคือท่าอากาศยานดอนเมืองด้วยจำนวนผู้โดยสาร 633,000 คน

AOT ได้ให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการกระบวนการตรวจคนเข้าเมืองและการบริหารจัดการกระเป๋า ซึ่งมีเวลาเฉลี่ยในการจัดการกระบวนการเหล่านี้ตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ นอกจากนี้ยังมีการประสานงานกับส่วนราชการและสายการบินในการอำนวยความสะดวกแก่ผู้โดยสาร รวมทั้งได้เพิ่มเจ้าหน้าที่ในการช่วยเกลี่ยคิวและการคัดแยกผู้โดยสาร

สำหรับการให้บริการระบบขนส่งสาธารณะภายในท่าอากาศยาน AOT ได้จัดเตรียมรถแท็กซี่สาธารณะ, รถ AOT Limousine, รถโดยสารขสมก., และรถไฟฟ้าให้บริการอย่างครอบคลุม ทั้งนี้ดร.กีรติยังได้ย้ำถึงความมุ่งมั่นของ AOT ที่จะพัฒนาและยกระดับการให้บริการของท่าอากาศยานในความรับผิดชอบให้มีมาตรฐานสากลและส่งผลดีต่อภาพลักษณ์ของประเทศ.

ในช่วงเทศกาลสงกรานต์, AOT ได้รับการชื่นชมจากการจัดการที่มีประสิทธิภาพในการรองรับผู้โดยสารจำนวนมาก รวมทั้งการบูรณาการกับหน่วยงานต่างๆ เช่น ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองและสายการบินในการจัดการกระบวนการตรวจลงตราหนังสือเดินทางและกระเป๋าสัมภาระ ซึ่งส่งผลให้กระบวนการเหล่านี้สามารถดำเนินการได้อย่างราบรื่นและเร็วขึ้น

นอกจากนี้, การใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ อย่างระบบจัดการตั๋วโดยสารและระบบจัดการตรวจสอบตัวตนของผู้โดยสาร (Passenger Validation System: PVS) ได้ช่วยลดเวลารอคอยและเพิ่มความสะดวกสบายให้กับผู้โดยสาร รวมถึงการใช้ระบบตรวจสอบกระเป๋าสัมภาระอัตโนมัติ (Common Use Bag Drop: CUBD) ที่ได้ลดขั้นตอนและเวลาในการจัดการกระเป๋าสำหรับผู้โดยสาร

AOT ยังได้เน้นย้ำถึงการให้บริการด้านความปลอดภัยภายในท่าอากาศยาน โดยมีการจัดเตรียมเจ้าหน้าที่และระบบกล้องวงจรปิดเพื่อตรวจสอบและดูแลความปลอดภัยของผู้โดยสารและสิ่งของทุกชิ้น การมีระบบความปลอดภัยที่เข้มงวดนี้ไม่เพียงแต่ช่วยให้ผู้โดยสารรู้สึกมั่นใจได้ถึงความปลอดภัยในการเดินทางเท่านั้น แต่ยังช่วยสร้างความเชื่อมั่นแก่นักท่องเที่ยวและชุมชนการบินระหว่างประเทศด้วย

ดร.กีรติยังเน้นว่า AOT มีแผนที่จะขยายและพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานภายในท่าอากาศยานเพื่อรองรับจำนวนผู้โดยสารที่เพิ่มขึ้นในอนาคต การปรับปรุงนี้จะรวมถึงการขยายสนามบิน, การเพิ่มประตูขึ้นเครื่อง, และการปรับปรุงระบบสารสนเทศและเทคโนโลยีเพื่อให้สอดคล้องกับมาตรฐานสากลและตอบสนองความต้องการของผู้โดยสาร

ท่าอากาศยานไทยจึงตั้งเป้าหมายที่จะไม่เพียงแต่เป็นศูนย์กลางการบินของภูมิภาคเท่านั้น แต่ยังต้องการเป็นท่าอากาศยานที่สามารถให้บริการที่รวดเร็ว ปลอดภัย และมีมาตรฐานสากล เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวและการค้าขายของประเทศให้เติบโตอย่างยั่งยืน.

#ท่องเที่ยว

Back To Top