น้ำท่วมภาคเหนือวิกฤติหลายจังหวัด โดยเฉพาะจังหวัดน่านที่ได้รับผลกระทบหนักที่สุด ขยายวงกว้างไปถึง 8 อำเภอ สถานการณ์น้ำในแม่น้ำสาขาต่างๆ เพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำให้หลายพื้นที่จมอยู่ใต้น้ำ โดยเฉพาะในอำเภอท่าวังผาที่มีน้ำท่วมถึง 11 ตำบล ถนนหลายสายถูกตัดขาด ชาวบ้านต้องอพยพหนีน้ำ ขณะเดียวกัน จังหวัดเชียงรายต้องเผชิญกับน้ำป่า ดินสไลด์ และสะพานขาด ทำให้เด็กนักเรียนและครูบางส่วนติดอยู่ในโรงเรียนไม่สามารถเดินทางกลับบ้านได้
ในจังหวัดพะเยา สถานการณ์ยังไม่พ้นวิกฤติ น้ำท่วมหนักสุดในรอบ 50 ปี บ้านเรือนและพื้นที่การเกษตรได้รับความเสียหายอย่างหนัก ขณะที่จังหวัดแพร่ต้องเผชิญกับมวลน้ำจากแม่น้ำยมที่ล้นตลิ่ง ทำให้ฝูงวัวควายถูกกระแสน้ำซัดหายไป ส่วนที่จังหวัดสุโขทัย มีการเสริมกระสอบทรายป้องกันน้ำล้นตลิ่งในอำเภอสวรรคโลก ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมอย่างหนัก
นายกรัฐมนตรีไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ในขณะนี้ จึงมอบหมายให้ “ภูมิธรรม เวชยชัย” ตั้งวอร์รูมฉุกเฉินเพื่อแก้ไขปัญหาน้ำท่วม และสั่งการให้ทุกหน่วยงานช่วยเหลือประชาชนอย่างเต็มที่ พร้อมเร่งระบายน้ำและวางแผนฟื้นฟูพื้นที่ที่ได้รับความเสียหาย
นอกจากนี้ สถานการณ์น้ำท่วมยังสร้างผลกระทบต่อโบราณสถานสำคัญในหลายพื้นที่ภาคเหนือ ซึ่งได้รับความเสียหายจากน้ำท่วม รวมถึงการไหลซึมของน้ำที่ส่งผลต่อความมั่นคงของโบราณสถานต่างๆ หน่วยงานสาธารณสุขในจังหวัดประสบภัยก็ได้รับผลกระทบ มีรายงานผู้เสียชีวิตแล้ว 2 ราย และหน่วยงานสาธารณสุขบางแห่งต้องปิดบริการชั่วคราวเนื่องจากสถานการณ์น้ำท่วมยังคงรุนแรงต่อเนื่อง
#ข่าวทั่วไป