ซุกคีตามีน 320 กิโลกรัมในฐานรองหุ่นยนต์ ป.ป.ส.ยึดก่อนส่งไต้หวัน

ซุกคีตามีน 320 กิโลกรัมในฐานรองหุ่นยนต์ ป.ป.ส.ยึดก่อนส่งไต้หวัน

ตำรวจและ ป.ป.ส. ร่วมกับหน่วยงานต่างประเทศยึดคีตามีน 320 กิโลกรัม ซุกในฐานรองหุ่นยนต์

ในวันที่ 24 เมษายน 2567, พลตำรวจโท ภาณุรัตน์ หลักบุญ, เลขาธิการ ป.ป.ส., ร่วมกับผู้บังคับบัญชาจากกองบังคับการตำรวจปราบปรามยาเสพติด และกรมศุลกากร, ได้เปิดเผยผลการยึดคีตามีน 320 กิโลกรัมที่ถูกซุกซ่อนในฐานรองหุ่นยนต์เหล็กเตรียมจัดส่งไปปลายทางไต้หวัน ผ่านทางเรือ หลังจากติดตามตัวหญิงชาวไทยผู้ส่งสินค้าดังกล่าวซึ่งถูกจับกุมในวันที่ 25 เมษายน 2567

การจับกุมครั้งนี้เป็นผลสืบเนื่องมาจากความร่วมมือระหว่างสำนักงาน ป.ป.ส., หน่วยปฏิบัติการพิเศษไทย-ออสเตรเลีย (Taskforce Storm), และเจ้าหน้าที่ตำรวจสหพันธ์ออสเตรเลีย (AFP) โดยที่การตรวจยึดนี้มีเป้าหมายในการทำลายเครือข่ายอาชญากรรมข้ามชาติและการค้ายาเสพติดที่ลักลอบขนส่งผ่านท่าเรือและท่าอากาศยานในประเทศไทย พลตำรวจโท ภาณุรัตน์ ได้ย้ำว่าการจับกุมนี้เป็นส่วนหนึ่งของการร่วมมือระหว่างประเทศที่มีความจำเป็นในการสกัดกั้นและปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในภูมิภาคนี้.

ในการประชุมแถลงข่าว, นายปฤณ เมฆานันท์, ผู้อำนวยการสำนักปราบปรามยาเสพติด, ได้ระบุว่าสืบสวนและการติดตามผู้เกี่ยวข้องในคดีนี้ต่อเนื่องมาหลายเดือน และเป็นไปในลักษณะการทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดระหว่างหน่วยงานต่างๆ ของไทยรวมทั้งการสนับสนุนข้อมูลจากหน่วยงานต่างประเทศ เช่น AFP และกระทรวงยุติธรรมการสอบสวนไต้หวัน (MJIB) ซึ่งช่วยให้สามารถติดตามและระบุตัวตนของผู้กระทำความผิดได้ทันท่วงที

การจับกุมครั้งนี้สะท้อนให้เห็นถึงการขยายตัวของเครือข่ายยาเสพติดในภูมิภาค และความท้าทายในการต่อสู้กับปัญหานี้ในยุคโลกาภิวัตน์ ผู้ต้องหาในคดีนี้ได้ให้การรับสารภาพว่าได้รับคำสั่งจากหญิงชาวลาวเพื่อดำเนินการส่งสินค้า สิ่งนี้ชี้ให้เห็นถึงลักษณะของเครือข่ายที่มีโครงสร้างซับซ้อนและการใช้ประเทศไทยเป็นฐานในการผ่านสินค้าไปยังประเทศอื่น

พ.ต.อ.วรัตม์ เจตนานนท์, ผู้กำกับการกองบังคับการตำรวจปราบปรามยาเสพติด 1, ได้ชี้แจงเพิ่มเติมว่า การตรวจสอบและการจับกุมในครั้งนี้ มีการใช้เทคโนโลยีและเครื่องมือสืบสวนขั้นสูง เพื่อค้นหาและยืนยันการซุกซ่อนยาเสพติดภายในสินค้าที่ดูเหมือนปกติ การใช้งานหุ่นยนต์เหล็กในการซุกซ่อนยาเสพติดนี้เป็นตัวอย่างของวิธีการใหม่ๆ ที่กลุ่มอาชญากรใช้เพื่อพยายามหลีกเลี่ยงการตรวจจับ

การดำเนินการจับกุมนี้ยังมีการประสานงานกับกรมศุลกากรเพื่อตรวจสอบเส้นทางการขนส่งทางทะเลและพัฒนามาตรการในการป้องกันการลักลอบนำเข้ายาเสพติดผ่านท่าเรือ นายพันธ์ทอง ลอยกุลนันท์, ที่ปรึกษาด้านการพัฒนาและบริหารการจัดเก็บภาษี กรมศุลกากร, กล่าวเสริมว่า การตรวจสอบร่วมกันนี้เป็นตัวอย่างของความร่วมมือระหว่างหน่วยงานในประเทศและระหว่างประเทศที่สำคัญในการต่อสู้กับอาชญากรรมข้ามชาติและการค้ายาเสพติดที่เพิ่มขึ้น

ผลจากการจับกุมครั้งนี้จะช่วยเสริมสร้างความมั่นใจให้กับชุมชนในการป้องกันและต่อสู้กับการค้ายาเสพติด ทั้งนี้ สำนักงาน ป.ป.ส. ยังคงมุ่งมั่นในการสกัดกั้นยาเสพติดที่อาจถูกลำเลียงผ่านท่าเรือและท่าอากาศยานในประเทศไทย เพื่อป้องกันการกระจายตัวของเครือข่ายอาชญากรรมข้ามชาติและเสริมสร้างความปลอดภัยให้กับประชาชน.

#ข่าวทั่วไป

Back To Top